Home โซเชียล หนุ่มนักท่องเที่ยวกลับบ้านไม่ได้ หลังสนามบินปิด เลยมาขับรถขๅยไอติม หาเงินประทังชีวิต

หนุ่มนักท่องเที่ยวกลับบ้านไม่ได้ หลังสนามบินปิด เลยมาขับรถขๅยไอติม หาเงินประทังชีวิต

0
771

เปิดเรื่องราวของนักท่องเที่ยวหนุ่มรายหนึ่ง หลังจากปิดสนามบินไปชั่วคราวนั้น ทำให้หนุ่มนักท่องเที่ยวคนนี้ต้องติดอยู่ในเมืองไทย แต่ในเมื่อไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง การเงินก็ต้องหมดอย่างแน่นอน และนั่นเลยเห็นเหตุให้ต้องหาเงินหาเงินทำชั่วคราวไปก่อน

บนโลกออนไลน์ ได้มีเฟสบุ๊กท่านหนึ่งที่ได้ออกมาเล่าเรื่องราวไว้ว่า…วันนี้เรามีเรื่องอยาเเชร์ พี่คนนี้เค้ากลับอินเดียไม่ได้ เพราะสนามบินปิด เลยต้องหารายได้ และตัดสินใจมาขับรถไอติมขๅย แต่ขๅยก็ไม่ค่อยได้ เปิดตู้แช่มา ไอติมยังเต็มอยู่เลย

ปกติเราก็ไม่ค่อยได้กินหรอก ถ้าเป็นเมื่อตอนเด็ก ๆ คงเพราะเซ็งที่วิ่งตามรถไม่ทัน เลยเลิกกินไป แถมพอโตขึ้นมีของกินที่เลือกเองได้เยอะขึ้น มีร้านค้าที่เราสามารถเข้าไปหาซื้อได้เลย ความอยากกินอะไรแบบนี้เลยลดลง

ถามว่าทำไมวันนี้ซื้อ?? ก็คือว่าพี่เค้าขับรถไอติมมา แล้วมาจอดตรงหน้าเรา ยกมือไหว้เรา เราก็งงมั้ยอะ ว่าไหว้ทำไม เค้าใส่หมวกโม่ง แต่เราเห็นแววตาเค้าเศร้ามาก ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อยากกิน เพราะเพิ่งกินข้าวเสร็จ แต่เห็นพี่เค้ายกมือไหว้แล้วอะ เลยรุ้สึกว่าต้องซื้อ มันเห็นใจแบบบอกไม่ถูก

เราเลยพยายามชวนเค้าคุย ประมาณว่า มีอะไรอร่อยบ้าง อันไหนขๅยดี บลา ๆ คำตอบที่ได้มามีแค่คำว่า “สวัสดีครับ” แบบคนที่พูดไทยไม่ชัด เราเลยถามต่อว่ามาจากที่ไหนเนี่ย พี่เค้าก็ตอบไม่ได้ละ เลยต้อง speak english กัน

สรุปคือ…. พี่เค้าขับมาตั้งแต่ประตูน้ำ ยังขๅยไม่ได้เลย จนมาถึงบ้านเรา ที่นนทบุรี ซึ่งมันไกลมาก

และเราเพิ่งเป็นลูกค้าเค้าคนแรกเนี่ยแหละ และไม่ค่อยได้คุยกับใครด้วย เค้าเลยดูดีใจมาก ๆ แล้วก็เล่าให้เราฟังว่าเค้ากลับประเทศไม่ได้

ที่เราประทับใจคือ เราซื้อไปประมาณ 65 บาท แต่เราให้แบงค์ร้อยเค้า แล้วบอกว่าไม่ต้องทอน แต่เค้ากลับบอกว่า ไม่เอา พร้อมยื่นเงินทอนมา แล้วเดินเข้ามาจับมือและแตะขาแม่กับป๊าเรา เหมือนแสดงความขอบคุณ (อันนี้เดาเอง)

ราเลยบอกเค้าว่าเอาไว้มาขๅยแถวนี้อีกนะ เราจะกินทุกวันเลย แต่จริง ๆ เราอยากบอกเค้าว่า ถ้าวันไหนขๅยไม่ได้ ไม่มีข้าวกิน แวะมาบ้านเราได้เลยนะ เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้บอก ไว้เจอรอบหน้าจะบอกละกัน

ปล. ใครเจอพี่เค้า ช่วยอุดหนุนไอติมหน่อยนะ

ต่อมาเจ้าของโพสต์ได้บอกว่า…

ความเห็นจากชาวเน็ต

แหล่งที่มา : Araya Tripodchanee

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.