Home สาระน่ารู้ รัฐบาลจีน แก้ปัญหาฝุ่นอย่างจริงจัง สู่ท้องฟ้าสีสดใส จนเป็นนโยบายระดับชาติ

รัฐบาลจีน แก้ปัญหาฝุ่นอย่างจริงจัง สู่ท้องฟ้าสีสดใส จนเป็นนโยบายระดับชาติ

0
97

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลจีน ออก Air Pollution Plan แผนปฎิบัติการระยะยาว 5 ปี กำหนดระดับ PM2.5 ในทุกเมืองหลักที่ก่อมลพิម ได้แก่ กรุงปักกิ่ง เทียนจิน และมณฑลเหอเป่ย นอกจากนี้เมือง 26 แห่ง ได้ให้สัญญาว่าจะทำการเปลี่ยนระบบทำความร้อนโดยการไฟฟ้าหรือก๊าซ แทนการใช้ถ่านหิน ใน 4 ล้านครัวเรือน

อีกทั้งจำกัดการผลิตเหล็ก และอลูมิเนียม สั่งปิดโรงงาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งในกรุงในปักกิ่งและบริเวณใกล้เคียง พร้อมมีการตั้งหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency)

ในขณะที่คนกรุงกำลังเผชิญกับปัญหาฝุ่นควัน รัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกต่างออกมาประกาศว่า มลพิមทางอากาศคือภัยร้ายแรง ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพโดยตรงไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ รวมถึงโรคหอบหืดและถุงลมโป่งพอง อีกทั้งองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศ มลพิមทางอากาศเป็น ‘ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณะสุข’

จีนก็ได้เผชิญปัญหามลพิមทางอากาศที่เລวร้ายมาแล้วในปี 2015 โดยสถาบันวิจัย Berkeley Earth รายงานว่า จากสภาวะอากาศที่เລวร้ายในครั้งนั้น มีส่วนส่งผลให้มีผู้เสีຍชีวิต 1.6 ล้านคนต่อปี

รัฐบาลจีนออก ‘นโยบายระดับชาติ’ จัดการปัญหา ‘มลพิមทางอากาศ’

การเติบโตอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจส่งผลให้จีนกลายเป็นผู้ผลิตหรือปล่อยก็าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนเองได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยให้กระทบต่อเศรษฐกิจน้อยที่สุด

ในปี 2013 รัฐบาลได้ออก Air Pollution Plan แผนปฎิบัติการระยะยาว 5 ปี กำหนดระดับ PM2.5 ในทุกเมืองหลักที่ก่อมลพิម (กรุงปักกิ่ง เทียนจิน และมณฑลเหอเป่ย เป็นพื้นที่ที่มีระดับมลพิមทางอากาศสูงสุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว) และจำกัดการใช้ถ่านหินทั่วประเทศ โดยให้กรุงปักกิ่งมีการลดการใช้ถ่านหิน 50% (ภายในปี 2013-2018) เมืองเทียนจิน 19% นอกจากนี้เมือง 26 แห่ง ได้ให้สัญญาว่าจะทำการเปลี่ยนระบบทำความร้อนที่ไฟฟ้าหรือก๊าซแทนการใช้ถ่านหิน ใน 4 ล้านครัวเรือน

รัฐบาลยังได้มีการจำกัดการผลิตเหล็ก และอลูมิเนียม ปิดโรงงาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อีกทั้งในกรุงในปักกิ่งและบริเวณใกล้เคียง มีการตั้งหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency) แห่งใหม่

ทำไมการบังคับใช้จึงได้ผลในประเทศจีนเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น? เนื่องจากผู้ที่เป็นต้นเหตุก่อมลพิមหลายรายเป็นรัฐวิสาหกิจ และควบคุมได้ง่ายกว่า อีกทั้งมลพิមมากกว่าครึ่งของจีนมาจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งง่ายต่อการจัดการของรัฐบาล ในการออกมาตรการควบคุมเฉพาะเรื่องถ่านหิน และหาวิธีควบคุมมลพิមจากสาเหตุอื่น

ล่าสุดปีที่แล้ว รัฐบาลก็ได้ออกแผนจัดการมลพิមทางอากาศใหม่ Three-Year Action Plan for Winning the Blue Sky War ตั้งเป้าปรับปรุงคุณภาพอากาศของประเทศภายในปี 2020 โดยมีเป้าหมายเฉพาะเพื่อลดการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และไนโตรเจนออกไซด์

จีนเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าประเทศใดในโลก

ในปี 2018 โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme – UNEP) เปิดเผยรายงานระบุว่า จีนได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของโลกในการลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าการลงทุนด้านพลังงานฟอสซิลแล้วในปี 2017

หลายโรงงานไฟฟ้าถ่านหินหลายแห่งถูกปิดตัว ส่งผลให้ยอดขายก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2012 จีนกลายเป็นประเทศที่ลงทุนเรื่องพลังงานสะอาดรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยได้ลงทุนในพลังงานลมและแสงอาทิตย์ไปแล้วราวสามล้านล้านบาท

จีนได้มีการตั้งเป้าใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างน้อยร้อยละ 35 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในปี 2030ตามแผนร่างคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าการใช้ ‘พลังงานสะอาด’ คิดเป็นร้อยละ 20 ของการใช้พลังงาน ภายในปี 2030

นอกจากนี้ ยังได้มีการผลักดันการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก สนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาด ออกมาตรการเข้มงวดต่อผู้ผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม

Alibaba บริษัทขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน แสดงรับผิดชอบต่อสังคม ขายชุดอุปกรณ์ทดสอบคุณภาพน้ำในราคาถูก

Xiomi ออกสโลแกน “Making quality technology accessible for everyone” ขายเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier ที่จะส่งข้อความเตือนผู้ใช้งานทุกครั้งเมื่อพบว่ามีการปนเปื้อนในอากาศ

ธนาคารโลก (World Bank) และธนาคารหัวเฉีย (Huaxia Bank) จับมือร่วมกันในโปรเจค ‘Jing-Jin-Ji program’ (Beijing-Tianjin-Hebei) ลงทุนในบริษัทที่ได้มีการใช้พลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียน และการควบคุมมลพิមในกรุงปักกิ่ง เทียนจิน มณฑลเหอเป่ย และจังหวัดใกล้เคียงของมณฑลซานตงชานซีเหอหนานและมองโกเลีย

จีนไม่ได้หยุดอยู่แค่การปรับปรุงคุณภาพอากาศเท่านั้u ยังได้หยุดรับขยะพลาสติกจากประเทศอื่น ๆ ประชาชนได้มีความกังวลเกี่ยวกับมลพิម และมีความด้านความต้องการวัสดุที่ลดลง โดยนอกจากจะผลักดันด้านพลังงานลมและแสงอาทิตย์แล้ว ยังได้ทำการทดลองพลังงานทดแทนถ่านหินอื่น ๆ อย่าง พลังงานไฮโดรเจนอีกด้วย

แหล่งที่มา: techsauce

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.