Home โซเชียล ชายชรา เลี้ยงดูเด็กมา 16 ปี ทั้งที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง ขนาดไม่สบายก็ไม่ยอมเสียเงินไปหาหมอ

ชายชรา เลี้ยงดูเด็กมา 16 ปี ทั้งที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง ขนาดไม่สบายก็ไม่ยอมเสียเงินไปหาหมอ

0
105

เรื่องราวที่เรามานำเสนอเพื่อน ๆ วันนี้ มาจากสื่อต่างประเทศ ซึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้มีชายคนหนึ่งที่ชื่อ ลู่อันปัง ได้เก็บทารกหญิงที่โดนพ่อแม่แท้ ๆ ทิ้งไว้ที่ขยะ ซึ่งขณะนั้นเขากำลังเดินทางไปทำงาน แต่กลับได้ยินเสียงเด็กร้องดังมาจากกองขยะข้างทาง

เรื่องราวเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันหนึ่งเมื่อปี 2004 ขณะกำลังทำงานก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากกองขยะข้างทาง ตอนแรกนึกว่าเสียงสุนัขจรจัด แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็พบว่าเป็นทารกที่เพิ่งเกิด เขาตกใจมากไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ เขาบอกว่าตอนนั้นเขาขาสั่นมาก มองดูทารกแล้วสงสารจับใจรีบเข้าไปอุ้มทารกขึ้นมาและพากลับบ้านทันที

ลู่อันปัง เมื่อกลับถึงบ้านก็พบว่าทารกพิпาร จึงได้พาทารกไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และหลังจากตรวจเสร็จหมอก็บอกกับลู่อันปังว่า เด็กคนนี้มีกลุ่มอาการไขสันหลังถูกดึงรั้ง เป็นความพิпารทางระบบประสาทแต่กำเนิด ลู่อันปังคิดว่าหากเขาทอดทิ้งไม่ดูแลเด็กคนนี้อีก เด็กคนนี้อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ จึงตัดสินใจรับเลี้ยงไว้เอง และตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า “ลู่จิ่งหยวน”

ฐานะของลู่อันปังก็ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ตอนนั้นเขาอายุ 59 ปีแล้ว เขามีความรู้นิดหน่อยเกี่ยวกับเทคนิคการทำรະเบิด ซึ่งเรียนรู้มาจากในกองทัพขณะที่เป็นทหารอยู่นั้น เขาทำงานอยู่ในเหมืองทำรະเบิดดินถ่านหิน

รายได้รายวันน้อยกว่า 200 หยวน (ราว ๆ 890 บาท) แค่เลี้ยงเด็กธรรมดาคนหนึ่งก็เป็นภาระหนักแล้ว แต่นี่ต้องมาเลี้ยงดูเด็กที่มีความผิดปกติ มีโรคประจำตัวอีกยิ่งลำบากมากขึ้นแน่ ๆ

แต่เนื่องจากลู่อันปังเคยเป็นทหารมา 8 ปี ทำให้เขามีนิสัยที่ความรับผิดชอบสูง เขาบอกว่า “เด็กคนนี้เขาเป็นคนพบเจอเอง ดังนั้นเขาจะปล่อยไปโดยไม่สนใจไม่ได้ เพราะเช่นนั้นเด็กคนนี้คงไม่มีชีวิตรอดต่อไปแน่ ๆ ” วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก หลายปีผ่านไป แม้สุขภาพร่างกายของเด็กคนนี้จะแย่ลงเรื่อย ๆ แต่ลู่อันปังก็ไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งเด็กคนนี้เลย แม้ชีวิตของเขาจะลำบากมากก็ตาม

เขาพยายามพาเด็กคนนี้ไปหาหมอหลายแห่งแล้ว เพื่อทำการรักษาจนต้องนำบ้านที่มีอยู่หลังเดียวไปจำนอง เขามีความคิดเดียวก็คือ จะยอมทำทุกอย่างเพื่อจะสามารถรักษาเด็กคนนี้ที่เปรียบเสมือนลูกสาวให้หายได้

เมื่อเด็กโตขึ้นก็ต้องเข้าโรงเรียนตามเด็กทั่วไป คุณครูประจำชั้นตั้งแต่ป.1-5 ของเด็กคนนี้เล่าว่า “แม้ว่าสุขภาพของเด็กคนนี้จะไม่ดีเท่าไหร่ แต่เธอเป็นเด็กที่ฉลาดมาก จดจำเรียนรู้ได้เร็ว ผลการเรียนก็ดีมาก” ต่อมาเมื่อโรงเรียนทราบเรื่องของเธอก็มักจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออยู่เสมอ

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือตอนเข้าเรียนระดับมัธยมต้น ลู่อันปัง ไปขอยืมเงินจากเพื่อน ๆ และพยายามทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมารักษาลู่จิ่งหยวน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของเพื่อน ๆ แต่เขาก็ไม่ฟัง

แต่คนทำดีก็ต้องได้รับสิ่งที่ดีตอบแทน ต่อมามีผู้ใจดีหลังจากได้ยินเรื่องราวของลู่อันปังก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาช่วยหรอ และทางโรงเรียนก็เข้ามาช่วยเหลือเธอเช่นกัน จนกระทั่งเด็กหญิงคนนี้ได้รับการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง อาการของเด็กหญิงเริ่มดีขึ้น

เมื่อมีนักข่าวเข้าไปถามว่า “เสียใจ” ที่เลือกเลี้ยงเด็กคนนี้ไหม เขาก็ตอบว่า “ไม่เคยคิดเสียใจเลย” ปัจจุบันเขาอายุ 69 ปีแล้ว ยังต้องวิ่งไปมาระหว่างโรงพยาบาลกับบ้าน เขา ยุ่งและเหนื่อຍมากจนไม่ได้ถ่ายหนักมา 1 อาทิตย์แล้ว เขารู้สึกปวดท้องจนทนไม่ไหวเลยไปหาหมอ หลังตรวจลำไส้เสร็จ หมอก็บอกว่าลำไส้อุดตันหนัก จึงต้องทำการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตในครั้งนั้น

ในเดือนกันยายน ปี 2019 ร่างกายของลู่อันปังก็ทรุดหนักอีก แต่เขาไม่ไปหาหมอกินยาแก้ปวดเพื่อระงับอาการไว้ เนื่องจากเขาอยากจะนำเงินสะสมของตนเองไปรักษาลู่จิ่งหยวนมากกว่า และอยากเก็บเงินให้เธอได้ใช้ในอนาคต

ลู่อันปังพูดทั้งน้ำตาว่า “ลู่จิ่งหยวนอายุยังน้อย ในอนาคตเธอยังต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษาตนเอง ส่วนผมอายุมากแล้ว ไม่กลัวสิ้นใจหรอก ผมยอมใช้ชีวิตอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อต่ออายุให้ลู่จิ่งหยวนได้มีอายุยืนยาว 100 ปี”

ช่างเป็นคุณพ่อที่เสียสละจริง ๆ เชื่อว่าอุปสรรคครั้งนี้หากผ่านมันไปได้แล้ว จะต้องมีวันที่สดใสรออยู่แน่นอน ขอให้พ่อลูกคู่นี้มีชีวิตและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้นจะได้อยู่เคียงข้างกันและกันตลอดไป

แหล่งที่มา: lookforward

เรียบเรียงโดย ยิ้มสยาม

Leave a Reply

Your email address will not be published.